จอแสดงผลรถยนต์ที่เพิ่มมากขึ้นกว่าจำนวนล้อรถยนต์

แชร์หน้านี้

              จอแสดงผลในรถยนต์ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นในรถยนต์รุ่นใหม่เทรนของการนำเทคโนโลยีการดูข้อมูลทางจอแสดงผลของผู้ขับขี่และผู้โดยสารนี้กำลังเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในความเป็นจริงแล้วนั้นมีการคาดการณ์ว่าตลาดของหน้าจอแสดงผลในรถยนต์จะเติบโตขึ้น 19% ต่อปี (CAGR) อย่างไรก็ตามภายในปี 20261 จะมีการเพิ่มขึ้นถึง 65% ของจอแสดงผลรถยนต์ในระหว่างปี 2016 ถึง 2021

ภาพด้านซ้าย : แบบจำลองหน้าจอแสดงผลต่างๆภายในห้องโดยสารรถยนต์ร่วมกับ ADAS (ระบบช่วยเหลือประมวลผลวิสัยทัศน์รอบตัวรถให้ผู้ขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น) รวมไปถึงหน้าจอแสดงผลบนพวงมาลัย, จอแสดงผลบนกระจกหน้า (HUD) และกระจกมองข้างรถที่มีระบบการตรวจจับด้วยกล้อง (camera monitoring system: CMS)

จอแสดงผลกำลังมีการพัฒนาเพื่อนำไปใช้ภายในส่วนต่างๆของรถยนต์ ดังเช่น

  • แผงหน้าปัด/แผงควบคุมอุปกรณ์ต่างๆภายในห้องโดยสาร
  • จอแสดงผลบนกระจกหน้ารถยนต์
  • จอแสดงผลบนพวงมาลัยขับเคลื่อน
  • จอแสดงผลระบบแผงควบคุม, ข้อมูลและความบันเทิงบนคอนโซลกลาง ประกอบด้วย
        • ข้อมูลการนำทาง
        • การควบคุมอุณหภูมิภายในห้องโดยสาร
        • ระบบควบคุมเสียง/วิทยุ
        • ฟังก์ชันอื่นๆของรถยนต์ เช่น กล้องแสดงภาพในขณะที่รถถอยหลัง
  • กระจกมองด้านหลังและด้านข้างรถที่มีระบบการตรวจจับด้วยกล้อง (CMS)
  • NOTE: ปัจจุบันรถยนต์รุ่นใหม่ในสหรัฐอเมริกาจะมาพร้อมกับกล้องตรวจจับของกระจกมองด้านหลัง และสามารถหาซื้อและติดตั้งได้ในรถยนต์รุ่นที่ออกมาก่อน
  • จอแสดงความบันเทิงด้านหลังเบาะสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง
จอแสดงผลระบบแผงควบคุมบนคอนโซลกลางของ Porsche 916 Spider (ซ้าย) และ Tesla P100D (ขวา)
ที่มา: Porsche image form Preh.Com, Tesla image credit Carol Ng.
ความต้องการจอแสดงที่มีคุณภาพ

ผู้บริโภคมีประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนและจอแสดงผลที่มีความละเอียดสูงจึงมีความคาดหวังว่าจอแสดงในรถของเขาจะมีความละเอียดไม่แพ้กัน Texas Instrument2 ได้สรุปข้อกำหนดของจอแสดงผลรถยนต์ไว้ ดังนี้

  • ความสว่างสูง มันมีความสำคัญมากที่ผู้ขับขี่ต้องสามารถอ่านข้อมูลที่แสดงบนหน้าจอได้ชัดเจนภายใต้ทุกสภาวะแวดล้อม ตลอดทั้งวันที่แสงจ้าสว่างมากไปจนถึงช่วงที่มืดที่สุด
  • มุมในการมองเห็นที่กว้าง จอแสดงผลระบบแผงควบคุมบนคอนโซลกลางควรจะมองเห็นได้ชัดเจนทั้งจากมุมมองของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมไปจนถึงผู้โดยสารที่นางในเบาะด้านหลังด้วย
  • ทนต่อสภาพอุณหภูมิที่หลากหลาย สำหรับการใช้งานที่มีอุณภูมิโดยรอบของรถยนต์ระหว่าง -40°C ไปจนมากว่า 125°C3
  • สามารถแสดงภาพที่มีคุณภาพสูง จากเทคโนโลยีจอแสดงขั้นสูงของจอในรูปแบบก่อนหน้านี้สู่จอในตลาดของยานยนต์ทำให้กิดความต้องการจอที่มีความละเอียดสูงเช่นกัน ทั้งการมี contrast ที่สูง(ความแตกต่างระหว่างสว่างสุดกับมืดสุด) และมี color-gamut characteristics สูง(การผลิตและแสดงสีของได้สมจริง)
  • ให้ค่า Color Depth สูง ต้อการจอแสดงผลที่มีความละเอียดสูงกว่า อาจต้องการมีค่า Color Depth จาก 18-bit (RBG) เพิ่มเป็น 24-bit (RGB) เพิ่มให้ได้ภาพที่ผลิตสีได้สมจริงมากขึ้น (wider color gamut)
  • อายุการใช้งานที่ยาวนานและมีดูแลบริการหลังการขายตลอดอายุการใช้งาน จอแสดงผลต้องรองรับการออกแบบและมีการดูแลบริการหลังการขายอย่างน้อย 5 ปี และอาจขยายระยะเวลาถึง 10 ปี ตามอายุการใช้งานของรถยนต์ 
คุณสมบัติอื่นๆ 
  • การตอบสนองที่รวดเร็ว การตอบสนองของจอแสดงผลที่รวดเร็วมีความสำคัญกับระบบการแจ้งเตือนและการนำทางของระบแผนที่เรียลไทม์,สภาพการจราจรปัจจุบันและกล้องสำรวจ 
  • ป้องกันแสงจ้าและแสงสะท้อน ผู้ขับขี่ต้องสามารถเห็นข้อมูลของจอแสดงผลได้ชัดเจนโดยไม่ได้รับการรบกวนจากแสงสะท้อนภายนอกและในขณะเดียวกันจอแสดงผลที่เคลือบผิวป้องกันแสงจ้าก็ยัต้องสามารถมองเห็นข้อมูลได้ชัดเจนด้วย
  • ประหยัดพลังงาน จอแสดงผลที่ประหยัดพลังงานก็จะส่งผลถึงการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยโดยจะทำให้ชิ้นส่วนของรถยนต์ลดการสะสมความร้อนลงด้ว(ชิ้นส่วนที่มีความสำคัญนกรณีนี้ เช่น แผงวงจร (PCB) สามารถใช้งานได้ทนความร้อนมากกว่าเนื่องจากการกระจายความร้อนได้ดีภายในห้องโดยสาร รวมถึงการใช้รถยนต์กลางแจ้งหรือสภาพอากาศที่ร้อนจัดด้วยเช่นกัน)
จอเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ด้านหลังเบาะที่นั่งภายใน Lexus 2019 GX (ซ้าย) และระบบกล้องตรวจจับของกระจกมองหลัง (ขวา) และนี้คือจอแสดงผลที่จะมีมากขึ้นภายในรถยนต์ปัจจุบันที่จะมีจำนวนมากกว่าล้อของรถยนต์ทั่วไปที่มีเพียงแค่ 4 ล้อ (หรืออาจนับรวมล้ออะไหล่เป็น 5 ล้อ)
ที่มา: Lexus.com และ Saferoad.org
สร้างความมั่นใจในคุณภาพจอแสดงผล

เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บิโภคและช่วยให้ผู้ผลิตสามารถผลิตจอแสดงผลที่มีคุณภาพและปลอดภัยได้ กว่า 20 ปีที่ทาง Radiant Vision Systems (RVS) ได้ศึกษาและทำงานรวมกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จำนวนมาก เพื่อนำเสนอเครื่องมือวัด, วิธีการทดสอบและการควบคุมคุณภาพของโคมไฟหน้ารถยนต์และอุปกรณ์ให้แสงสว่างด้านนอกอื่นๆ, ไฟแสดงสัญลักษณ์, ไฟภายในห้องโดยสารและหลอดไฟขนาดเล็ก, จอแสดงผลและจอแสดงผลบนกระจกหน้ารถยนต์ (HUDs) รวมไปจนถึงเทคโนโลยีเช่น LCD, LED และ OLED นอกจากนี้ RVS ร่วมกับค่ายรถยนต์รายใหญ่กำลังพัฒนาวิธีการหาจำนวน “ประกายแสง (sparkle)” เพื่อบ่งบอกคุณสมบัติของจอแสดงผลที่การป้องกันแสงสะท้อน(anti-glare displays)ได้อัตโนมัติ และยังนะเสนอวิธีการวิเคราะห์ “black mura gradient”ตามมาตรฐานสากล (Deutsches Flachdisplay Forum: DFF) กำหนด

ตัวอย่างการทดสอบและรายผลของโปรแกรม TT-AutomotiveDisplay”ร่วมกับการใช้งานเครื่อง Radiant ProMetric แบบ photometer หรือ colorimeter

เมื่อเร็วๆนี้ RVS ได้เปิดตัวโมดูลล่าสุดของโปรแกรม TrueTest ที่รองรับการวัดจอแสดงผลแบบอัตโนมัติ “TT-Automotive Display” โปรแกรมเต็มรูปแบบที่สามารถตอบสนองทุกความต้องการทดสอบจอแสดงผลที่มีคุณภาพของรถยนต์ ทั้งจอแสดงผลสีเหลี่ยมทั่วไปและรูปแบบอื่นๆ รวมไปจนถึงการวิเคราะห์ค่า image sticking (ปรากฏการณ์ที่ยังคงมองเห็นภาพที่แสดงก่อนหน้านี้ร่างๆบนจอแสดงผล) 

สามารถคลิกดูรายละเอียดของโปรแกรม TT-AutomotiveDisplay เพิ่มเติม หรือดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ Product Specification Sheet 

 

บทความอ้างอิง
1. Automotive Display Systems Market…Global Forecast to 2026. Published by MarketResearch.biz, October 2017. LINK
2. Krishnamurthy, A., Ma, D., Mehta, C, and Weiss, I., Powering automotive displays to create interactive driving experiences. Published by Texas Instruments, January 2018. LINK
3. Per the Automotive Electronics Council

    หากต้องการความช่วยเหลือในการพัฒนาและกระบวนการจัดการสีและแสงของคุณหรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสีและแสงของเรา 

    ให้เราช่วยคุณในการเลือกวิธีการและเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับความต้องการในการวัดของคุณสามารถติดต่อเพื่อข้อมูลหรือคำแนะในการกำหนดขั้นตอนการวัดค่าสีและแสงเพิ่มเติมได้ที่

ได้ที่อีเมล [email protected]

เบอร์ 02-361-3730 

Line : https://lin.ee/6cpcTtD หรือสแกน QR code ด้านข้างนี้ค่ะ

สามารถติดตามช่องYoutubeของเราเพื่อรับชมวิดีโอการสาธิตเครื่องมือ และการแนะนำการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องวัดสี