Organic Light Emitting Diodes หรือ OLED เป็นเทคโนโลยีการแสดงผลแบบใหม่ที่นิยมใช้ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อาทิ สมาร์ทโฟน, อุปกรณ์สวมใส่และโทรทัศน์ เป็นต้น
มองไปข้างหน้าทศวรรษหน้าจะนำเทคโนโลยีที่เหนือชั้นและความก้าวหน้า การสแกนใบหน้า, ลายนิ้วมือและสแกนจอประสาทตาที่ดูเหมือนยากในอดีตแต่ในปัจจุบันมันเรื่องที่สามารถพบเจอได้ง่ายมากๆบนอุปกรณ์มือถือมากมาย
การพัฒนาของ OLED จะเปลี่ยนวิธีพื้นฐานการผลิตหน้าจอประสิทธิภาพสูงและในไม่ช้าการแสดงผลแบบสามมิติและการเพิ่มประสิทธิภาพของจอแสดงผลแบบสามมิติสำหรับผู้บริโภคจะกลายเป็นภาพที่พบบ่อยเช่นเดียวกับการสแกนลายนิ้วมือบนมือถือในปัจจุบัน
ข้อดีของ OLED คือไม่ต้องใช้แบล็คไลท์ (Backlight) ฉะนั้นจะทำให้จอแสดงผลนั้นบางลงและไม่เปล่งแสงบริเวณที่เป็นสีดำทำให้ใช้พลังงานน้อยลงเช่นกัน (สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ OLED ได้ที่ Howstuffworks.com)
ความสว่างของจอแสดงผล OLED ถูกพิจารณาจากระดับขนาดพิกเซลซึ่งแต่ละพิกเซลประกอบด้วย Sub-pixel สามสี คือ แดง เขียว และน้ำเงิน ซึ่งเมื่อส่องสว่างในระดับต่างๆ ก็จะสามารถสร้างสรรค์ออกมาเป็นสีต่างๆได้
การปรับปรุงความสว่างและความสม่ำเสมอของสีในจอแสดงผล OLED สามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพิกเซลย่อยแต่ละสีแยกกัน ขั้นตอนทั่วไปเริ่มต้นจากการเปิดพิกเซลย่อยสีเดียวกันทั้งหมด แล้วจึงถ่ายภาพโดยใช้เครื่องมือแบบ imaging colorimeter ซึ่งผู้ใช้สามารถวัดและบันทึกความสว่างของแต่ละ sub-pixel หลังจากนั้นกระบวนการนี้จะทำซ้ำสำหรับสีที่เหลืออยู่
ดังเช่นภาพตัวอย่างด้านซ้ายมือ
แสดงการวัดหน้าจอแบบ OLED โดยเปิดพิกเซลเฉพาะสีน้ำเงิน แล้วใช้เครื่องมือแบบ imaging colorimeter วัดหน้าจอ
ซึ่ง Konica Minolta และ กลุ่มบริษัท Radiant Vision Systems มีเครื่องมือและวิธีการที่ได้สามารถวัดค่าสีโดยเครื่องมือแบบ imaging colorimeter ที่ได้กล่าวมา
อาทิ Konica Minolta 2D Color Analyzer CA-2500 และ ProMetric
เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำการทดสอบหน้าแบบ OLED ได้อย่างง่ายดาย
หากสนใจรายละเอียดสามารถติดต่อเพื่อขอคำปรึกษาฟรีเกี่ยวกับเทคนิคและวิธีการวัดสีและการวัดแสง
ได้ที่อีเมล [email protected]
เบอร์ 02-361-3730 หรือ 092-384-4664
Line : https://lin.ee/6cpcTtD หรือสแกน QR code ด้านข้างนี้คะ