Case Study : กรณีศึกษาการทดสอบเทคโนโลยีแสดงผล HUD บนกระหน้ารถ

แชร์หน้านี้
A typical after-market HUD: the display area is limited to a small transparent screen mounted on the dashboard, nicknamed a “dashboard wart” by one industry commentator. (Image: © NAVDY)

Head-up displays (HUDs) เป็นเทคโนโลยีแสดงผลบนกระหน้ารถ เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเห็นข้อมูลการขับขี่ได้ โดยจะออกแบบให้มองเห็นพอดีกับสายตาขณะขับขี่บนท้องถนน โดยไม่จำเป็นต้องก้มลงมองแผงหน้าปัดรถยนต์

                Head-up displays (HUDs) ได้รับการพัฒนาครั้งแรกในทศวรรษที่ 1940 และถูกใช้โดยนักบินทหารในสงครามโลกครั้งที่สอง แนวคิดที่สำคัญไม่เปลี่ยนแปลง สำหรับเครื่องบินหรือรถยนต์ HUDs จะฉายข้อมูลกึ่งโปร่งใสโดยตรงในมุมมองของผู้ขับขี่ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา วิธีการฉายภาพและเทคโนโลยีการแสดงผลได้ถูกพัฒนามากขึ้น ในอุตสาหกรรมยานยนต์ เราได้เห็นความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจากหน้าจอ 2D ขนาดเล็กที่ติดตั้งบนแผงหน้าปัดไปจนถึง HUD แบบ 3 มิติแบบ Augmented Reality (AR) รุ่นใหม่ที่สามารถรวมภาพเข้ากับสภาพแวดล้อมภายนอกรถได้ เช่น การแสดงลูกศรนำทางเพื่อให้คำแนะนำคนขับต้องเลี้ยวรถตามลูกศร เนื่องจาก HUD ช่วยให้การขับขี่ยานพาหนะปลอดภัยยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากท้องถนน ตลาดจึงเฟื่องฟูขึ้นมาก HUD สำหรับรถยนต์มีมูลค่าตลาดประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าจะขยายตัวมากกว่า 24% CAGR ในช่วงปี 2564-2569

จอแสดงผล HUD บนกระจกบังลมหรือกระจกหน้า

ระบบ HUD ของรถยนต์ในปัจจุบันฉายภาพเสมือนจริงบนกระจกหน้ารถ ซึ่งมองเห็นได้ผ่านกระจกในระยะที่รับรู้ได้หลายเมตร กระจกบังลมทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบของระบบ HUD ซึ่งหมายความว่าประสิทธิภาพการมองเห็นของ HUD อาจได้รับผลกระทบมาจากคุณลักษณะของตัวกระจกแก้วเองซึ่ง นอกเหนือจากประสิทธิภาพของเทคโนโลยีการฉายภาพ 

รูปแบบกระจกหน้ารถ การเคลือบ ความหนาของชั้นและมุมโค้งของกระจก อาจส่งผลให้เกิดข้อบกพร่องต่อการมองเห็นได้ซึ่งปรากฏเป็นความผิดเพี้ยนของมิติหรือภาพซ้อน (ซ้ำ) ของภาพเสมือนจริงของ HUD เมื่อมองผ่านทะลุกระจก

ข้อกำหนดสำหรับการทดสอบ HUD ตามเงื่อนไขพารามิเตอร์และวิธีการทดสอบที่เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรม นอกเหนือจากข้อกำหนดโดยเฉพาะของ OEM ซึ่งซัพพลายเออร์ต้องปฏิบัติตามแล้ว ยังเชื่อมโยงสู่ระบบสายการผลิตของ HUD ตั้งแต่ผู้ผลิตแก้วไปจนถึงผู้ผลิตระบบฉายภาพ

Representations of BMW’s futuristic BMW Vision Next 100 augmented reality HUD that extends across the entire windscreen. (Images: BMW)

ความจำเป็นในการทดสอบ HUD ระดับของการทดสอบบนกระจกหน้ารถ

กระจกหน้าที่ใช้งานร่วมกับ HUD ต้องได้รับการทดสอบสำหรับข้อบกพร่องหลักหลายประเภท เช่น การบิดเบือนภาพ (Distortion) และ ภาพหลอก (Ghosting) ข้อกำหนดในการทดสอบสำหรับข้อบกพร่องแต่ละประเภทอาจแตกต่างกันไป

ข้อบกพร่องจะมีการแยกเป็นหมวดหมู่ โดยมีคุณสมบัติหลายอย่าง ซึ่งทั้งหมดต้องได้รับการประเมินหรือทดสอบ โดยแต่ละระดับคุณภาพจะถูกวัดโดยใช้สูตรและวิธีการเฉพาะ (ระบุไว้ในอุตสาหกรรมหรือข้อกำหนดของ OEM) ตัวอย่างเช่น การประเมินการบิดเบือน (Distortion) ที่สมบูรณ์สำหรับการตรวจสอบกระจกหน้าแบบ HUD อาจต้องใช้การคำนวณ 10-20 ครั้ง สำหรับประเมินคุณภาพการมองเห็นทั้งหมด เพื่อพิจารณาช่วงของการเบี่ยงเบนที่อาจจะเกิดขึ้นกับภาพ

กรณีศึกษา: การทดสอบกระจก HUD ของ CP Industries

CP Industries มีประสบการณ์หลายสิบปีในฐานะผู้ผสานรวมเครื่องมือแบบครบวงจร โดยจัดหาชุดติดตั้งและระบบทดสอบแบบกำหนดเองสำหรับการใช้งานที่หลากหลายในการผลิตยานยนต์ รวมถึงการผลิตกระจกด้วยการถือกำเนิดและการเติบโตของ head-up displays (HUD) ในตลาดยานยนต์ พวกเขาอยู่ในสถานะผู้นำตลาดที่จะตอบสนองความจำเป็นในการทดสอบกระจกหน้ารถซึ่งจัดว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบ HUD

อย่างไรก็ตาม การรายงานผลการตรวจสอบคุณภาพของภาพจาก HUD ตามข้อกำหนดของอุตสาหกรรมยานยนต์และข้อกำหนดเฉพาะของ OEM นั้นเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์การตรวจสอบแบบดั้งเดิม เมื่อบริษัทเริ่มพัฒนาระบบทดสอบกระจก HUD รูปแบบใหม่

CP Industries จึงเริ่มมองหาช่องทางการปรับปรุงส่วนประกอบต่างๆ ให้เหมาะสมที่จะตอบสนองความต้องการขั้นสูงของการตรวจสอบกระจก HUD และคิดนอกกรอบในการแก้ปัญหาให้กับลูกค้า

พวกเขาตัดสินใจว่า เครื่องมือของ Radiant ประกอบด้วย ProMetric® Imaging Systems และซอฟท์แวร์ TT-HUD™ ควบคู่ไปกับความเชี่ยวชาญด้านการสร้างระบบทดสอบของ CP Industries นำเสนอโซลูชั่นที่ดีที่สุดสำหรับระบบทดสอบ “HUDSON” รุ่นล่าสุด Radiant ได้สร้างความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับเกณฑ์การวัดคุณภาพของ HUD ผ่านการใช้การถ่ายภาพด้วยแสง (photometric) และการวัดสี (colorimetric) สำหรับการทดสอบ HUD ในระดับ OEM และระดับซัพพลายเออร์ โซลูชันการวัด HUD ของ Radiant ได้รวบรวมเกณฑ์การทดสอบตามมาตรฐานที่กำหนดโดย Society of Automotive Engineers (SAE J1757-2) ตลอดจนคุณลักษณะที่พัฒนาขึ้นตามข้อกำหนดการใช้งานโดยเฉพาะของลูกค้า

ระบบของ Radiant ถูกนำไปใช้ในการทดสอบคุณภาพทางโฟโตเมตริก เช่น ความสว่าง (luminance) ความเข้มของสี (chromaticity) และ contrast หรือการระบุความต่าง ตลอดจนการตรวจสอบมิติสำหรับการบิดเบือน(distortion) การบิดเบี้ยว(warping) และภาพซ้อน(ghosting)

The HUDSON test system from CP Industries addresses complete customer requirements for HUD glass inspection and can be incorporated as part of a fully automated production line or used in offline measurement. (Image: © CP Industries, used with permission)

              ระบบสร้างภาพหรือกล้อง ProMetric เป็นเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์การวัดที่มีความละเอียดสูง ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับการประมวลผลข้อมูลและความต้องการ output ที่มีนัยสำคัญ ให้การประมวลผลภาพภายในเครื่อง การคำนวณขั้นสูงสำหรับการวัดตามภาพ(image-based measurement)

            การเปลี่ยนจากการใช้กล้องวิชันซิสเต็ม (machine vision cameras)ในการออกแบบดั้งเดิม ทาง CP Industries ได้รวมระบบของ Radiant ซึ่งประกอบด้วย ProMetric Y Imaging Photometer เข้ากับระบบทดสอบที่ชื่อว่า HUDSON เพื่อทำการบันทึกภาพและการประมวลผลสำหรับการตรวจสอบกระจก HUD ข้อมูลจากกล้อง ProMetric จะถูกวิเคราะห์โดยใช้ ซอฟท์แวร์ TT-HUD ซึ่งเป็นชุดทดสอบและเชื่อมต่อกับการใช้งานที่พัฒนาขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้งานทำงานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับการตรวจสอบด้วยภาพอัตโนมัติของ HUD ในรถยนต์ TT-HUD มีฟังก์ชันการจับและบันทึกภาพและการวิเคราะห์ทั้งหมด ซึ่งแตกต่างจากซอฟต์แวร์วิชันซิสเต็มที่ใช้ในระบบทดสอบรุ่นก่อนๆ อีกทั้งยังรวมถึงการประมวลผล คำนวณในตัวเครื่องเพื่อวัด ระบุคุณภาพของการฉายภาพ HUD ตามมาตรฐานซึ่งเป็นข้อกำหนดหลัก

          ตั้งแต่นำโซลูชันของ Radiant มาใช้แทนกล้องวิชันซิสเต็ม (machine vision cameras)กับระบบ HUDSON บริษัท CP Industries นอกจากจะได้ประโยชน์ในการปรับปรุงกระบวนการทดสอบและรายงานผล เนื่องจากโซลูชัน Radiant ทำการวัด HUD และวิเคราะห์ตามมาตรฐานได้ภายในตัวเครื่อง ประหยัดเวลาในการทดสอบได้มากขึ้น  CP Industries ยังสามารถลดระยะเวลาส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้ประมาณ 10 สัปดาห์ พวกเขายังสามารถลดจำนวนอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทดสอบ เช่น ยกเลิกการใช้เครื่องวัดความส่องสว่างเพื่อทดสอบแหล่งกำเนิดแสงที่ฉายภาพ (ตอนนี้ดำเนินการโดยระบบ ProMetric) นอกจากระยะเวลาการทดสอบที่สั้นลง ยังสามารถทำการวัดใหม่ที่ไม่สามารถทำได้กับระบบก่อนหน้านี้ เช่น การวัดแบบไดนามิกในทิศทาง มุมมองต่างๆ

ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพเหล่านี้ทำให้บริษัทสามารถลดระยะเวลาส่งมอบสินค้า ด้วยความเร็วในการทดสอบ ความคุ้มค่า และความสามารถในการวัดในโดยตรงที่โรงงานผลิตรถยนต์ของลูกค้า หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ CP Industries และโซลูชันการวัด HUD ที่สมบูรณ์จาก Radiant โปรดอ่านกรณีศึกษาจนี้เพิ่มเติม จาก CP Industries Delivers Turnkey Test Systems for Head-Up Display Windshield Glass Using ProMetric® Imaging Photometers และซอฟท์แวร์ TT-HUD™ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับ:

  • การตรวจสอบกระจก HUD: การวัดแบบไดนามิกในทิศทาง มุมมองต่างๆ ใช้เพื่อประเมินความผิดเพี้ยน ภาพซ้อน และปัญหาด้านคุณภาพของภาพอื่นๆ ที่เกิดจากรูปแบบกระจกบังลม การเคลือบ ความหนาของชั้น และมุมโค้งมน
  • สิ่งที่ได้รับจาก Radiant ในการวัด ทดสอบ HUD ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าระบบวิชันซิสเต็ม

โซลูชันของ Radiant ช่วยให้ CP Industries ปฏิบัติตามข้อกำหนดการทดสอบ HUD ทั้งหมดได้อย่างไร การส่งผลทำให้ระยะเวลาการส่งมอบสินค้าที่สั้นลงและฟังก์ชันการทำงานที่ได้รับการปรับปรุงให้แก่ลูกค้า

    หากต้องการความช่วยเหลือในการพัฒนาและกระบวนการจัดการสีและแสงของคุณหรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสีและแสงของเรา 

    ให้เราช่วยคุณในการเลือกวิธีการและเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับความต้องการในการวัดของคุณสามารถติดต่อเพื่อข้อมูลหรือคำแนะในการกำหนดขั้นตอนการวัดค่าสีและแสงเพิ่มเติมได้ที่

ได้ที่อีเมล [email protected]

เบอร์ 02-361-3730 

Line : https://lin.ee/6cpcTtD หรือสแกน QR code ด้านข้างนี้ค่ะ

สามารถติดตามช่องYoutubeของเราเพื่อรับชมวิดีโอการสาธิตเครื่องมือ และการแนะนำการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องวัดสี