ในอุตสาหกรรมความงามและสุขภาพ “ความแม่นยำ” คือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์เครื่องสำอางสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตรงตามความต้องการผู้บริโภค
วันนี้เราจะพามารู้จัก Skin Analysis Software CM-SA2 จาก Konica Minolta — ซอฟต์แวร์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการวิเคราะห์สีผิว เมลานิน (Melanin Index) และดัชนีฮีโมโกลบิน (Hb Index) อย่างมีประสิทธิภาพ
CM-SA2 ดีกว่าโปรแกรมวัดสีทั่วไปอย่างไร?
โปรแกรมวัดสีทั่วไป (Color Measurement Software) มักถูกออกแบบมาเพื่อวัดสีในหน่วยสีมาตรฐาน หากตัวอย่างเป็นวัสดุสิ่งทอ พลาสติก หรืออาหาร สามารถวัดสีโดยใช้หน่วยสีต่างๆได้เลย แต่การวิเคราะห์สีผิวนั้น มีความต้องการการวิเคราะห์ที่มากกว่า ที่ในโปรแกรมวัดสีทั่วไปไม่มี เช่น ดัชนีเมลานิน, ดัชนีฮีโมโกลบิน (Hb), ดัชนีความอิ่มตัวของออกซิเจนของฮีโมโกลบิน (Hb SO2) ในขณะที่ CM-SA2 สามารถวัดค่าต่างๆได้ในครั้งเดียว
- เจาะจงการวัดสีผิว ไม่ใช่วัสดุทั่วไป นอกจากค่ามาตรฐาน L*, a*, b* แล้ว ยังมี Melanin Index และ Hb Index ซึ่งเป็นตัวชี้วัดสำคัญของสุขภาพผิวที่โปรแกรมทั่วไปไม่สามารถให้ได้
- มี ITA° (Individual Typology Angle) ใช้จำแนกโทนผิวได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นฟีเจอร์เฉพาะด้าน skin research ที่เครื่องวัดสีทั่วไปไม่รองรับ
- ประเมินประสิทธิภาพสารบำรุงผิวได้จริง เช่น Whitening Agent หรือ Brightening Agent สามารถแสดงผล “ก่อนและหลังใช้” ผ่านกราฟ L*, a*, Melanin Index ได้ทันที ทำให้ผลการวิจัยมีหลักฐานเชิงปริมาณชัดเจน
- บันทึกภาพจริงควบคู่กับค่าที่วัด ผ่านกล้อง viewfinder ที่ช่วยยืนยันว่าค่าที่ได้มาจากจุดใดบนผิว ซึ่งเครื่องวัดสีทั่วไปไม่สามารถทำได้
- การจัดการข้อมูลระดับวิจัย ส่งออกผลในรูปแบบ CSV สำหรับการวิเคราะห์ต่อใน Excel หรือซอฟต์แวร์สถิติขั้นสูงได้ทันที เหมาะกับงานวิจัยระยะยาว
CM-SA2 จะสมบูรณ์แบบเมื่อใช้ควบคู่กับเครื่องวัดสีผิวรุ่นใหม่อย่าง CM-17d
จะดีแค่ไหน…ถ้า ซอฟต์แวร์อัจฉริยะ CM-SA2 ได้ทำงานคู่กับ เครื่องวัดสีผิว CM-17d? นี่คือการจับคู่ที่ออกแบบมาเพื่อวิเคราะห์สีผิวโดยเฉพาะ
จุดเด่น CM-17d ที่ทำให้ต่างจากเครื่องวัดสีทั่วไป
- วัดได้เร็วกว่า – ใช้เวลาเพียง ~0.7 วินาที ต่อการวัด (SCI/SCE) เร็วกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน เหมาะกับการเก็บข้อมูลหลายจุดต่อเนื่อง
- ความแม่นยำสูงกว่า – ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐานเพียง ΔEab 0.02 (เทียบกับ CM-16d ที่ ΔEab 0.04) ทำให้มั่นใจได้ว่าข้อมูลละเอียดและเชื่อถือได้
- พื้นที่การวัดยืดหยุ่น – มีให้เลือกทั้ง MAV (φ8 มม./φ11 มม.) และ SAV (φ3 มม./φ6 มม.) ปรับเปลี่ยนได้ตามวัตถุและความละเอียดที่ต้องการ
- Viewfinder คมชัด – เล็งจุดได้แม่น หลีกเลี่ยงรอยสิว รอยไฝ หรือจุดรบกวน พร้อมบันทึกภาพประกอบการวัด
- รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย – ทำงานคล่องตัวขึ้นด้วย Bluetooth® / Wi-Fi (ออปชัน)
- มาตรฐานการวัดระดับโลก – รองรับมาตรฐาน ISO, ASTM, DIN, JIS ครบถ้วน ใช้ได้ในงานวิจัยที่ต้องการอ้างอิงสากล
การประยุกต์ใช้ในอุตสาหกรรมความงาม
สำหรับ ภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะบริษัทเครื่องสำอางและห้องวิจัยผิวหนัง ซอฟต์แวร์ CM-SA2 ไม่ใช่แค่เครื่องมือวัด แต่คือ “การลงทุนเพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน
- พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ใช้วัดประสิทธิภาพของ whitening, anti-aging, หรือ sun protection ให้เห็นผลเชิงตัวเลข
- สร้างความน่าเชื่อถือทางวิทยาศาสตร์ ข้อมูลจาก CM-SA2 สามารถใช้ประกอบงานวิจัยทางคลินิก หรือการยื่นเอกสารรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ได้
- ลดความเสี่ยงด้านการตลาด เมื่อมีหลักฐานชัดเจนจากดัชนีสีผิวและเมลานิน แบรนด์สามารถโฆษณาผลิตภัณฑ์ได้อย่างมั่นใจ ลดปัญหาข้อกฎหมายและการร้องเรียน
หากต้องการ มองเห็นความจำเป็นในการใช้เครื่องวัดสี เราอยากแนะนำให้ลองเข้าฟังบรรยายย้อนหลัง สัมมนาเรื่อง Mastering Color in Cosmetics & Personal Care คลิก ลงทะเบียนเพื่อดูบันทึกการบรรยายย้อนหลัง
เพื่อให้เข้าใจปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อการวัดสีและดูการสาธิตการใช้งานซอฟเฟอร์ CM-SA2 และเครื่องวัดสีผิว CM-17d นอกจากการสาธิตยังมีบรรยายสั้นๆเกี่ยวกับ
- หลักการรับรู้สีและความสำคัญของการควบคุมสี
- พื้นฐานการวัดสีสำหรับเครื่องสำอางและ Personal Care
- เทคนิคและอุปกรณ์การวัดสีในเครื่องสำอาง
แน่นอนว่า จะทำให้ทุกท่านเข้าใจการวัดสีมากยิ่งขึ้น
หากอ่านถึงตรงนี้แล้ว ต้องการปรึกษาการนำเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อไปใช้ในงานหรืออุตสาหกรรมของคุณ ทางเซ็นเทเซียมีทีมผู้เชี่ยวชาญ สามารถติดต่อช่องทางการติดต่อด้านล่างค่ะ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ หรือกดเพิ่มเพื่อนใน Line เพื่อไม่พลาดข่าวสารหรืองานสัมมนาต่างๆของเราค่ะ
ได้ที่อีเมล teamiie@centasiathai.com เบอร์ 02-361-3730
Line Official Account : @centasia หรือ สแกน QR code ด้านข้างนี้ค่ะ
สามารถติดตามช่อง Youtube ของเรา
เพื่อรับชมวิดีโอการสาธิตเครื่องมือ และการแนะนำการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องวัดสี คลิกที่นี้