ชาเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นสายสุขภาพหรือดื่มแก้กระหาย เนื่องจากปัจจุบันชามีหลากหลายรสชาติและหลายรูปแบบ ทำให้ชาเป็นที่ต้องการของตลาดเครื่องดื่ม ซึ่งแน่นอนว่าผู้ผลิตและจำหน่ายชาทั้งใบชาก่อนชงและชาบรรจุขวด จึงพยายามควบคุมคุณภาพให้ดีที่สุด เพื่อให้ครองใจผู้บริโภคได้อย่างยาวนาน ประเภทของการแปรรูปจะสร้างปฏิกริยาต่อต้านอนุมูลอิสระและการหมักภายในใบชา สิ่งนี้จะสร้าง theaflavins และ thearubigins ซึ่งเป็นส่วนประกอบทางเคมีที่กำหนดรสชาติของชาและสีชา กระบวนการที่ซับซ้อนนี้ทำให้การรักษาคุณภาพและรสชาติของเครื่องดื่มชาในปริมาณมากเป็นเรื่องยาก ทำให้มีผู้ผลิตและผู้จำหน่ายหลายแห่งใช้เครื่องวัดสี แบบ Spcetrophotometer จะช่วยให้สามารถประเมินสีของชาที่ผลิตได้ และมั่นใจได้ว่าตลอดกระบวนการผลิตนั้นคุณภาพจะยังคงเหมือนเดิม การประเมินด้วยสายตาของมนุษย์ เช่น การตรวจสอบสี การพิจารณาว่าชามีกลิ่นที่ถูกต้อง หรือการตรวจสอบรสชาติยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดคุณภาพของชา แต่ผลลัพธ์ยังคงขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ซึ่งบุคคลมีปัจจัยหลายๆอย่างที่ยากจะควบคุมผลการประเมินด้วยสายตา เป็นไปอย่างถูกต้องแม่นยำสม่ำเสมอ การใช้เครื่องวัดสีจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ทำให้ได้ผลที่ถูกต้องแม่นยำ สม่ำเสมอตลอดการผลิต บทความนี้จะแนะนำ เครื่องวัดสีรุ่น Spectrophotometer CM-5 มีหลักการทำงาน 2 รูปแบบ ได้แก่ การวัดแบบสะท้อน และการวัดแบบส่องผ่าน นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมซึ่งเป็นภาชนะใส่วัตถุที่ต้องการวัดได้เกือบครอบคลุมทุกรูปแบบ ทำให้สามารถวัดชาได้ทุกสถานะ ไม่ว่าจะเป็น น้ำชา ใบชาอบแห้ง ผงชา เป็นต้น สามารถคลิกวิดีโอเพื่อดูตัวอย่างการวัดสีของ CM-5 …
-
-
การวัดสีผสมอาหาร
สีมีอิทธิพลต่อการรับรู้รสชาติของผู้บริโภค ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้มีการเติมสีหรือสารปรุงแต่งลงในอาหารเพื่อให้ดูน่ารับประทาน นอกจากนี้ยังสามารถพบได้ในกลุ่มของยาและเครื่องสำอางค์ สีผสมอาหารแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ สีผสมอาหารแบบสังเคราะห์ และสีจากธรรมชาติ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับสีผสมอาหารแบบสังเคราะห์ ผู้ผลิตอาหารจึงต้องการเปลี่ยนมาใช้สีธรรมชาติ อย่างไรก็ตามสารให้สีจากธรรมชาติโดยทั่วไปนั้นมาจากผักและผลไม้ ซึ่งมีสีสันสดใสน้อยกว่าและมีราคาแพง เพื่อให้ได้เฉดสีที่ใกล้เคียงกัน ทำให้ต้องใช้สีจากธรรมชาติในปริมาณที่สูงกว่าสีผสมอาหารแบบสังเคราะห์ ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนการผลิต การใช้สีผสมอาหารในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้กลบกลิ่นและรสชาติของอาหารที่ต้องการอีกด้วย เครื่องวัดสีจะเป็นประโยชน์ในการลดปริมาณการใช้สีผสมอาหาร หรือทำให้ใช้ในปริมาณที่พอดี เพื่อให้ได้สีที่ต้องการโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้สีธรรมชาติปริมาณมากเกินไป สีธรรมชาติมีหลายรูปแบบ เช่น ผง ของเหลว หรือของเหลวหนืด ซึ่งแต่ละรูปแบบต้องใช้โหมดการวัดเฉพาะให้เหมาะกับตัวอย่าง ทั้งการวัดแบบสะท้อนแสงและการวัดแบบส่องผ่าน เพื่อให้ได้ข้อมูลสีที่แม่นยำและวัดซ้ำได้ เครื่องมือวัดสีรุ่น Konica Minolta Spectrophotometer CM-5 สามารถวัดได้ทั้ง 2 แบบ คือการวัดแบบการสะท้อนแสง และการวัดแบบส่องผ่าน เป็นโซลูชันที่คุ้มค่าสำหรับผู้ผลิตในการทำการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือปรับสูตรใหม่ นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมที่หลากหลายเพื่อช่วยให้ผู้ผลิตทำการวัดสีได้อย่างง่ายและครอบคลุมทุกรูปแบบผลิตภัณฑ์ที่ต้องการวัดมาดูกันว่า CM-5 วัดอะไรได้บ้าง คลิก หากต้องการความช่วยเหลือในการพัฒนาและกระบวนการจัดการสีและแสงของคุณหรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสีและแสงของเรา ให้เราช่วยคุณในการเลือกวิธีการและเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับความต้องการในการวัดของคุณสามารถติดต่อเพื่อข้อมูลหรือคำแนะในการกำหนดขั้นตอนการวัดค่าสีและแสงเพิ่มเติมได้ที่…
-
การประเมินอายุการเก็บรักษา (Shelf life) ของผลิตภัณฑ์อาหารโดยใช้เครื่องวัดสี
อาหารทุกประเภทมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเคมีและชีวภาพในระหว่างการแปรรูปหรือการเก็บรักษา ซึ่งทางผู้ผลิตจำเป็นต้องควบคุมตัวแปรต่างๆ ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้คุณภาพตรงตามที่ต้องการ และปฏิกิริยาต่างๆในอาหารที่เกิดขึ้นระหว่างการแปรรูปและการเก็บรักษาจะเกิดขึ้นด้วยอัตราที่แตกต่างกัน ปัจจัยที่ต้องพิจารณาปฏิกิริยาต่างๆ ที่สามารถทำให้อาหารเสื่อมสภาพ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงทางเคมี เช่น การเกิดออกซิเดชั่น ปฏิกิริยาการเกิดน้ำตาล การเปลี่ยนแปลงทางจุลินทรีย์ เช่น การเกิดรสหรือกลิ่นที่ผิดปกติ การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ เช่น การเปลี่ยนสี การแยกชั้นของครีม รูปร่างหน้าตาของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนแปลงไป ตัวอย่างการเก็บข้อมูลค่าสีเพื่อประเมินอายุการเก็บรักษาของชาผงโดย บรรจุชาผงลงในซองอลูมิเนียมฟอยล์หรือบรรจุภัณฑ์ที่ปิดสนิทแบบสูญญากาศ เก็บที่อุณหภูมิ 35, 45 และ 55 องศาเซลเซียส ทำการสุ่มวัดทุกๆ 5 วันเป็นระยะเวลา 60 วัน เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงของสี ค่าสีจะแสดงได้ดังนี้ (L*) แสดงค่าความสว่าง, (a*) ค่าสีแดง, (b*) ค่าสีเหลือง จะพบว่าเมื่อเวลาผ่านไป ค่าความสว่างจะลดลง และผลของอุณหภูมิต่อค่าความสว่างของสีจะลดลงเมื่อเก็บไว้ในอุณหภูมิที่สูงขึ้น อาจเนื่องจากเกิดปฏิกิริยาเมลลาร์ดในผลิตภัณฑ์ชาผง ส่งผลให้เกิดเป็นสีน้ำตาลเพิ่มมากขึ้น ชาผงจึงมีสีที่เข้มและคล้ำขึ้น เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นปฏิกิริยาต่างๆ เกิดในอัตราที่เร็วขึ้นและมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสี ส่วนค่าสีเหลือง (b*) พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย และการเปลี่ยนแปลงสีโดยรวม (different color, dE) จะพบว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมากเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เครื่องวัดสีของ Konica Minolta…
-
การวัดสีแป้งมันสำปะหลัง
แป้งมันสำปะหลังมีสีขาวซึ่งเป็นสีโดยธรรมชาติและยากที่จะควบคุม แต่ก็ใช่ว่าจะควบคุมไม่ได้ เนื่องจากในปัจจุบันมีเครื่องมือวัดสีหรือ เครื่องวัดเฉดสี เพื่อจำแนกค่าสีของแป้งมันสำปะหลังแต่ละประเภทได้หน่วยที่คุ้นเคยสำหรับการวัดค่าสีคงหนีไม่พ้น L*a*b* Delta E* ซึ่งหน่วยค่าสีดังกล่าวเป็นหน่วยสีที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุด สามารถใช้ดูองค์ประกอบของสี ค่า L* หมายถึง ค่าความส่องสว่างส่วน a* และ b* จะเป็นค่าสัมประสิทธิ์สี ดังนี้ +a* หมายถึง อยู่ในทิศของสีแดง -a* หมายถึง อยู่ในทิศของสีเขียว+b* หมายถึง อยู่ในทิศของสีเหลือง –b* หมายถึง อยู่ในทิศของสีน้ำเงิน แต่ค่าเหล่านี้ไม่สามารถวิเคราะห์ความขาวของแป้งมันสัมปะหลังได้ การวิเคราะห์ค่าความขาวได้ แนะนำให้ใช้ค่า WI ทำให้สามารถเห็นความแตกต่างค่าสีได้มากขึ้น เครื่องวัดสีที่จะแนะนำสำหรับการวัดสีแป้งมันสำปะหลังนี้คือ เครื่องวัดสี Chroma Meter CR-410 มาพร้อมกับหัววัดและหน่วยประมวลผล ซึ่งทั้งสองส่วนนี้สามารถถอดแยกออกจากกันได้ ทำให้สะดวกต่อการทำไปวัดได้ในไลน์ผลิต ด้วยหัววัดที่มีขนาดใหญ่กว่า 50 mm เหมาะสำหรับงานวัดชิ้นงานที่มีลักษณะเป็นเม็ดและผง เนื่องจากพื้นที่การวัดมีขนาดใหญ่ ค่าเฉลี่ยพื้นที่การวัดค่าสีแป้งมันสำปะหลังครอบคลุมมากขึ้นนอกจากนี้ Chroma Meter CR-400/410 ยังช่วยลดปัญหาค่าสีที่ไม่เหมือนกัน แม้จะใช้งานเครื่องวัดสีรุ่นเดียวกัน โดยการใช้ฟังก์ชั่น…
-
วิธีวัดสีคาราจีแนน (Carrageenan)
บทความนี้เราจะมาแนะนำวิธีวัดสีคาราจีแนน (caraageenan) คาราจีแนนเป็นสารปรุงแต่งอาหารที่มักพบในผลิตภัณฑ์ เช่น เครื่องดื่มผลิตภัณฑ์จากนมและเนื้อสัตว์แปรรูป คาร์ราจีแนนสกัดได้จากสาหร่ายทะเลสีแดง (Rhodophyceae) เช่น สาหร่ายผมนาง (Gracilaria fisheri) นำไปแปรรูปและบดเป็นผงก่อนใช้ ในการควบคุมสีของคาราจีแนนที่ถูกต้องจำเป็นต้องใช้เครื่องมือสีที่มีหน่วยสี CIEL * a * b * คาราจีแนนมีลักษณะเป็นผงสีขาวเป็นหลัก ดังนั้น ควรเน้นเฉพาะค่าความสว่าง (L *) แทนเดลต้า E เป็นเกณฑ์ในการควบคุมสี ค่า L * ของคาราจีแนนจะแตกต่างกันไปตามความต้องการของลูกค้าหรือสถานที่ที่จะใช้ ตัวอย่างเช่นค่า L * ของการใช้เนื้อสัตว์มักจะอยู่ระหว่าง 84 ถึง 88 สำหรับผลิตภัณฑ์นมและเครื่องดื่มค่า L * จะอยู่ระหว่าง 90 ถึง 96 เครื่องมือวัดสีเช่น Konica Minolta Chroma Meter CR-410 สามารถวัดได้ในหน่อยสี CIE L * a * b * และด้วยลักษณะของตัวอย่างเป็นผง…
-
วิธีวัดสีเครื่องสำอางให้สม่ำเสมอ
ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางการควบคุมสีให้สม่ำเสมอมีความสำคัญมาก เนื่องจากเป็นปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ ความสำคัญของควบคุมที่ถูกต้องและสม่ำเสมอเพื่อรักษาคุณภาพนี้ไว้ทำให้ผู้ผลิตเครื่องสำอางจำเป็นต้องวัดสีและประเมินสี จากหลายๆครั้งที่เราได้พูดถึงการประเมินสีด้วยสายตาที่มีหลายปัจจัยที่ต้องควบคุมนั้น แน่นอนว่าหลายท่านย่อมพบปัญหาในการประเมินสีด้วยสายตา เช่น การสื่อสารข้อมูลสีที่ไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขได้ หรือ การสอบเทียบผู้ประเมินสีด้วยสายตา หรือแม้แต่ความถูกต้องของการอ่านค่าจากประเมินสีด้วยสายตา (อ่าน ปัจจัยที่มีผลต่อการประเมินสีด้วยสายตา) การวัดสีเครื่องสำอางไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบผงแป้งหรือของเหลวเผื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและแม่นยำ ควรเลือกโหมดการวัดสีที่ถูกต้องกับตัวอย่าง ซึ่งในเครื่องสำอางจะมีการวัดสีตั้งแต่วัถุดิบแรกเริ่มก่อนผสม วัตถุดิบเหล่านี้ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นผง, ของเหลวทั้งใสและทึบแสง ลักษณะที่แตกต่างนี้โหมดการวัดย่อมแตกต่างกัน โหมดการวัดสำหรับตัวอย่างที่โปร่งใสและโปร่งแสงครววัดแบบส่องผ่าน (transmittance measurement) และตัวอย่างที่ทีบแสงควรวัดแบบสะท้อน (reflectance measurement) บทความนี้จะขอแนะนำรุ่น CM-5 ขึ้นมาเนื่องจาก CM-5 เป็นเครื่องวัดสีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหลายๆอุตสาหกรรม สามารถวัดสีได้ทั้ง แบบส่องผ่าน (transmittance measurement) และแบบสะท้อน (reflectance measurement) มาพร้อมอุปกรณ์เสริมต่างๆที่ใส่ตัวอย่างได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นของแข็ง, ของเหลว, หน้าจอมีค่าข้อมูลสี แถบสีตัวอย่างไปจนถึงกราฟแสดงผล นอกจากนี้เครื่อง CM-5 เป็นเครื่องวัดสีแบบ spectrophotometer ซึ่งมีเซ็นเซอร์เป็นแบบสเปคโตรทำให้คัดแยกสีได้ละเอียดและแม่นยำ หากต้องการความช่วยเหลือในการพัฒนาและกระบวนการจัดการสีและแสงของคุณหรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสีและแสงของเรา ให้เราช่วยคุณในการเลือกวิธีการและเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับความต้องการในการวัดของคุณสามารถติดต่อเพื่อข้อมูลหรือคำแนะในการกำหนดขั้นตอนการวัดค่าสีและแสงเพิ่มเติมได้ที่ ได้ที่อีเมล [email protected] เบอร์ 02-361-3730 หรือ 092-384-4664 Line : https://lin.ee/6cpcTtD หรือสแกน QR code…
-
วิธีวัดสีของกาแฟสำเร็จรูป
สีของเมล็ดกาแฟสำเร็จรูปขึ้นอยู่กับระดับการคั่วและขั้นตอนการชง การวัดสีระหว่างการคั่วและการต้มเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้การควบคุมสีของเมล็ดกาแฟ ซึ่งแต่ละสีมีความหมายที่สื่อถึงรสชาติและวิธีการชงที่เหมาะสม การดื่มกาแฟในปัจจุบันสามารถดื่มได้ทุกที่ทุกเวลาด้วยกาแฟสำเร็จรูป เพียงเติมน้ำลงในเมล็ดกาแฟสำเร็จรูปคุณก็สามารถดื่มกาแฟได้ทันที กาแฟที่ถูกชงจากถั่วบดคั่วและเปลี่ยนเป็นเม็ดโดยการแช่แข็งหรือพ่นแห้ง วิธีการคั่วและการเตรียมมีผลต่อรสชาติของกาแฟ ในการคั่วเมล็ดกาแฟ สีของเมล็ดกาแฟเป็นตัวบ่งชี้การคั่วและขั้นตอนการชงต้องใช้ส่วนผสมที่เหมาะสม เพื่อให้ได้สีของเม็ดละเอียดที่สม่ำเสมอและรสชาติที่ดี การผลิตกาแฟสำเร็จรูปต้องมีควบคุมสีของเมล็ดกาแฟตลอดทั้งกระบวนการเพื่อให้ได้สีที่เหมาะสม การวัดค่าสีด้วยสายตานั้น สามารถทำได้แต่มีหลายปัจจัยที่ต้องควบคุมเนื่องจากตัวแปรเหล่านี้จะส่งผลต่อการประเมินค่าสีด้วยสายตา (อ่านการประเมินค่าสีด้วยสายตา เพิ่มเติม) นอกจากนี้สิ่งที่ตาของแต่ละคนมองเห็นนั้น การสื่อสารหรือการอธิบายสีที่เห็นย่อมไม่เหมือนกัน ทำให้มีการพัฒนาเครื่องวัดสีขึ้นมาสื่อสารค่าสีในเชิงตัวเลขเพื่อให้ง่ายต่อการควบคุมมาตรฐานการผลิตทั้งภายในและซัพพลายเชน ( ทำไมต้องใช้เครื่องวัดสี ) เครื่องวัดสีที่จะแนะนำในบทความนี้ คือ รุ่น Chroma Meter CR-410C ที่ถูกออกแบบมาเพื่อวัดกาแฟโดยเฉพาะ การวัดและปริมาณสีเมล็ดกาแฟคั่วโดยใช้ Chroma Meter CR-410C สามารถให้ผลการวัดที่เชื่อถือได้และยังช่วยประหยัดเวลาเนื่องจากมี color index ที่มีข้อมูลสีของกาแฟจาก Specialty Coffee Association of America (SCAA) ทำให้การวัดสีกาแฟให้ได้มาตรฐานนั้นเป็นเรื่องง่ายและสะดวก หากต้องการความช่วยเหลือในการพัฒนาและกระบวนการจัดการสีและแสงของคุณหรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสีและแสงของเรา ให้เราช่วยคุณในการเลือกวิธีการและเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับความต้องการในการวัดของคุณสามารถติดต่อเพื่อข้อมูลหรือคำแนะในการกำหนดขั้นตอนการวัดค่าสีและแสงเพิ่มเติมได้ที่ ได้ที่อีเมล [email protected] เบอร์ 02-361-3730 หรือ 092-384-4664 Line : https://lin.ee/6cpcTtD หรือสแกน QR code ด้านข้างนี้ค่ะ สามารถติดตามช่องYoutubeของเราเพื่อรับชมวิดีโอการสาธิตเครื่องมือ และการแนะนำการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเครื่องวัดสี
-
การวัดลักษณะภายนอก หรือ Appearance Measurement คืออะไร
เราคัดแยกคุณภาพของผลิตภัณฑ์ตามลักษณะที่เราตาเรามองเห็น ซึ่งจะเรียกว่า ลักษณะที่ปรากฏ หรือ ลักษณะภายนอก ของผลิตภัณฑ์ ซึ่งจะถูกประเมินจากสี, ความเงา, ความมันวาว, พื้นผิวและข้อบกพร่อง ลักษณะเหล่านี้ส่งผลต่อลักษณะโดยรวมของผลิตภัณฑ์ ซึ่งการผลิตสินค้าในปัจจุบันสามารถเลือกและเปลี่ยนวัตถุดิบต่างๆเพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น สมาร์ทโฟนทั้ง IOS หรือ Android รุ่นล่าสุดที่มีการแมทช์คู่สีและลักษณะต่างๆได้อย่างลงตัว เพื่อสีที่ถูกต้อง จากรูปลักษณ์ภายนอกที่นอกเหนือจากรูปร่างและขนาดแล้ว นักออกแบบส่วนใหญ่เริ่มต้นด้วย การเลือกสีให้ถูกต้อง ซึ่งสีต้องเป็นไปตามที่ออกแบบไว้รวมไปถึงส่วนประกอบภายนอกทั้งหมดของผลิตภัณฑ์ต้องเข้ากันอย่างลงตัว คัลเลอริมิเตอร์หรือสเปกโตรโฟโตมิเตอร์ช่วยในการหาปริมาณสี หรือ วัดสีออกมาในเชิงตัวเลข เพื่อให้ง่ายต่อการสื่อสารทั้งระหว่างลูกค้าและซัพพลายเชนเพื่อให้แน่ใจว่ามีการผลิตสีที่ถูกต้องและสม่ำเสมอตลอดเวลา เพื่อรูปลักษณ์ที่ถูกต้อง นอกเหนือจากสีที่ถูกต้องแล้ว ยังมีพารามิเตอร์อื่นๆที่จำเป็นต้องมีการวัดค่าและควบคุมเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ พารามิเตอร์ระบุคุณภาพของพื้นผิว เช่น ความเงา (gloss), ความขุ่นมัว (haze), ลักษณะผิวส้ม(orange peel) พารามิเตอร์เหล่านี้ล้วนเป็นต้องมีการตรวจวัดเพื่อให้รูปลักษณะหรือลักษณะภายนอกของสินค้าเป็นไปตามที่ต้องการ เงา คือ การสะท้อนพื้นผิวของแสงในทิศทางเดียว โดยมาตรฐานอุตสาหกรรมนิยมวัดความเงาในมุม 20 °, 60 °และ 85 ° วัดในหน่วยความเงา (GU) พื้นผิวที่ผ่านการขัดเงาอย่างดีจะสะท้อนแสงได้มาก มีค่า GU สูง ในขณะที่พื้นผิวที่หยาบซึ่งกระจายแสง มีค่า GU ต่ำ ลักษณะพื้นผิวที่มีความขุ่นมัวเป็นสาเหตุทำให้เกิดการสะท้อนได้ต่ำ หรือภาพที่เกิดจากการสะท้อนไม่ชัดเจน …
-
มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด Covid-19 ของบริษัทเซ็นเทเซีย
ตามที่มีประกาศของสำนักงานศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 มีผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.สมุทรสาครและรอบปริมณฑลเป็นจำนวนมาก และยังแพร่กระจายระบาดไปยังพื้นที่อื่นๆ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันการระบาดของเชื้อ ทางบริษัทได้มีมาตรการคัดกรอง และเฝ้าระวังเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ Covid-19 โดยเบื้องต้นสำหรับพนักงานและบุคคลภายนอกที่เข้ามาติดต่องานกับทางบริษัทได้แก่ ลูกค้า, Supplier หรือบุคคลอื่นๆ ขอให้ทุกท่านปฎิบัติตามมาตรการดังต่อไปนี้ สวมหน้ากากอนามัยก่อนเข้ามาในสำนักงานและตลอดเวลาที่อยู่ในสำนักงาน ต้องทำความสะอาดมือ ด้วยเจลหรือสเปรย์ฆ่าเชื้อโรคที่จัดเตรียมไว้ก่อนเข้าสำนักงาน ต้องตรวจวัดอุณหภูมิร่างการ ก่อนเข้าสำนักงาน(อุณหภูมิต้องไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส) บริษัทฯไม่อนุญาติให้บุคคลภายนอกได้แก่ ลูกค้า, Supplier หรือบุคคลอื่นๆ ทุกท่านเข้ามาติดต่องานกับบริษัทตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้น ลูกค้าที่มา รับ-ส่ง เครื่องวัดสี ให้รับ-ส่ง บริเวณที่บริษัทได้กำหนดไว้ Supplier ที่มาวางบิล-รับเช็ค ให้วางบิล-รับเช็ค บริเวณที่บริษัทได้กำหนดไว้ ลูกค้า, Supplier หรือบุคคล ที่จะเข้ามาติดต่อ ให้โทรแจ้งกับเจ้าหน้าที่ก่อนมาติดต่อทุกครั้ง ให้พนักงานหลักเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อตามประกาศของสำนักงานศูนย์บริหารสถานการณ์แพร้ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดาวน์โหลดไฟล์ PDF Download PDF หากต้องการความช่วยเหลือในการพัฒนาและกระบวนการจัดการสีและแสงของคุณหรือพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสีและแสงของเรา ให้เราช่วยคุณในการเลือกวิธีการและเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับความต้องการในการวัดของคุณสามารถติดต่อเพื่อข้อมูลหรือคำแนะในการกำหนดขั้นตอนการวัดค่าสีและแสงเพิ่มเติมได้ที่…
-
ทำความเข้าใจเกี่ยวกับcolor scale ในอุตสาหกรรมยา
Color scale ในอุตสาหกรรมยา European Pharmacopoeia (EP) และ US Pharmacopeia (USP) มักใช้เพื่อตรวจสอบสีและลักษณะของยาเหลวและอำนวยความสะดวกในการสื่อสารสีภายในอุตสาหกรรม Color scale ใน EP ประกอบด้วยสีอ้างอิง 37 สี: สีน้ำตาล (B1 – B9) น้ำตาล / เหลือง (BY1 – BY7) สีเหลือง (Y1 – Y7) เขียว / เหลือง (GY1 – GY7) แดง (R1 – R7) สารละลายอ้างอิงหรือที่หลายคนเรียกว่า “สารละลายมาตรฐาน” 37 สีนี้สร้างขึ้นจากการผสมและเจือจางของเหลวหลัก 3 ชนิดของโคบอลต์คลอไรด์ (สีแดง) เฟอร์ริก (III) คลอไรด์ (สีเหลือง) และคอปเปอร์ซัลเฟต (สีน้ำเงิน) Color scale ใน USP ใช้ของเหลวหลัก…